โกเมซซัดโทน! อินทรีสยายปีกสยบฝอยทอง1-0
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
กลุ่ม บี
เยอรมัน 1-0 โปรตุเกส
วันที่ 9 มิถุนายน 2555
สนาม : อารีน่า ลวีฟ ประเทศยูเครน
ผู้ตัดสิน : สเตฟาน ลันนัว (ฝรั่งเศส)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทีมชาติเยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์ - เจอโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ - โธมัส มุลเลอร์ (ลาร์ส เบนเดอร์ 90), เมซุต โอซิล (โทนี่ โครส 87), ลูคัส โพดอลสกี้ - มาริโอ โกเมซ (มิโรสลาฟ โคลเซ่ 80)
สำรอง ทิม วีเซ่, รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบเนดิคท์ โฮเวเดส, มาร์เซล ชเมลเซอร์, แพร์ เเมร์เตซัคเคอร์, อันเดร ชูรร์เล่, มาริโอ เกิทเซ่, อิลกาย กุนโดกัน, มาร์โค รอยส์
ทีมชาติโปรตุเกส : รุย ปาทริซิโอ - เจา เปเรยร่า, บรูโน่ อัลเวส, เปเป้, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ราอูล เมยเรเลส (ซิลเวสเตร วาเลร่า 80), มิเกล เวโลโซ่, เจา มูตินโญ่ - นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า (เนลสัน โอลิเวยร่า 70), คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สำรอง
เอดูอาร์โด้, เบโต้ - ริคาร์โด้ คอสต้า, อูโก้ มิเกล โลเปส, โรลันโด้, รูเบน มิคาแอล, ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, คัสตูดิโอ, อูโก้ วิอาน่า, อูโก้ อัลเมยด้า
'อินทรีเหล็ก' เยอรมัน แชมป์เก่า 3 สมัย พบกับ 'ฝอยทอง' โปรตุเกส อดีตรองแชมป์เมื่อปี 2004
เริ่มเกมได้เพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น ทางด้านทัพ เยอรมัน ที่เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ก่อน มาได้ลุ้นประตูทันที จากโอกาสที่ เจอโรม บัวเต็ง เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตทัณฑ์ให้ มาริโอ โกเมซ ได้โหม่งเช็ด ลูกฟุตบอลไปตรงตัว รุย ปาทริซิโอ
น.10 ยังเป็นช่องทางลุ้นของ เยอรมัน อีกครั้ง จากการทำเกมทางการบขวา โธมัส มุลเลอร์ เวิกเรียดย้อนมาหน้าจุดโทษ บอลเลยไปถึง ลูคัส โพดอลสกี้ วิ่งมาอัดด้วยซ้าย แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ รุย ปาทริซิโอ
น.25 ภายหลังที่ตั้งเกมรุกได้เคลื่อนที่มากยิ่งขึ้น โอกาสของ เยอรมัน ก็มาอีกครั้ง จากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 25 หลา ชไวสไตน์เกอร์ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ ลูคัส โพดอลสกี้ อัดด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่ไปติดกำแพง
น.31 ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมมา ยังเป็น เยอรมัน ที่หาจังหวะเข้าทำได้ดีกว่า ได้ลุ้น จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล เปิดบอลเรียดจากกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ ลูคัส โพดอลสกี้ ได้ตวัดยิงด้วยซ้าย แต่บอลโด่งข้ามคาน
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โปรตุเกส ที่ได้จังหวะลุ้นจะแจ้งครั้งแรก จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เจา มูตินโญ่ เปิดเข้าเขตโทษ บอลมาพลัดอยู่ที่เท้า เปเป้ แต่งบอลได้แปด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งไปชนคาน กระดอนลงมาตรงกึ่งกลางเส้นประตูพอดี
ทำให้จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง เยอรมัน เปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที แล้วมาได้หวาดเสียว เมื่อ ซามี่ เคดิร่า ได้ยิงจังหวะแรกหน้าเขตโทษ บอลไปเอียงแนวรับ โปรตุเกส ไปเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ ที่ยืนโล่งในกรอบฝั่งขวา ก่อนที่จะปาดเรียดเข้ากลาง โดน ราอูล เมยเรเลส ล้มตัวสกัดออกไปได้ทัน
น.57 จังหวะเข้าทำยังเป็น เยอรมัน ที่ทำได้เหนือกว่าตั้งแต่เริ่มเกม ก่อนจะมาได้ลุ้น จากจังหวะที่ ลูคัส โพดอลสกี้ เปิดบอลโค้งจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ มาริโอ โกเมซ ได้โหม่ง แต่บอลข้ามคาน
น.65 โปรตุเกส ที่นานๆ จะได้บุก มาได้ลุ้นจากจังหวะโต้กลับเร็วที่ เจา มูตินโญ่ จ่ายบอลเร็วให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะแต่งบอลแล้วยิง แต่โดน เจอโรม บัวเต็ง พุ่งตัวเข้ามาบล็อกได้ทัน
น.72 หลังจากที่บดอยู่นาน ทัพ 'อินทรีเหล็ก' มาได้สยายปีกสมใจ เมื่อจังหวะเปิดทางกรอบเขตโทษฝั่งขวาของ ซามี่ เคดิร่า ไปแฉลบแนวรับ โปรตุเกส แต่กลายเป็นดี บอลลอยโด่งเข้าเขตโทษ มาริโอ โกเมซ เทกตัวโขก บอลย้อนเข้าไปที่เสาแรก ทำให้ เยอรมัน นำ 1-0
น.82 โปรตุเกส พยายามตั้งเกมบุกหวังทวงประตูคืน มาได้ลุ้นจะแจ้ง จากความสามารถเฉพาะตัวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ลากบอลตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายมาหน้าเขตโทษ ก่อนที่จะซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งเข้าเสาแรก แต่ มานูเอล นอยเออร์ ล้มตัวปัดทิ้งออกไปได้ทัน
น.88 ทัพ 'ฝอยทอง' พลาดโอกาสได้ประตูตีเสมออย่างน่าแค้น เมื่อจังหวะที่ เนลสัน โอลิเวยร่า เก็บบอลได้จากเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะกวัดแกว่งย้อนเข้ากลาง บอลเลยมาถึง ซิลเวสเตร วาเลร่า ยืนกางมุ้งรอบอล ก่อนที่จะได้แปเน้นๆ บอลไปติดเซฟ มานูเอล นอยเออร์ ที่พุ่งตัวออกมาบล็อกได้ทัน
จบเกม 90 นาที เยอรมัน เฉือนเอาชนะ โปรตุเกส ไปได้ 1-0
